วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ

  ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ตามเส้นทางหมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม) ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายตามทางหลวงสาย 1263 เข้าสู่ทุ่งบัวตองอีก 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1 พันไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อมๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามมาก
นอกจากนี้ ยังมีบริการให้เช่าเต็นท์ค้างแรมบนดอย ซึ่งจะมีสถานที่สำหรับตั้งเต็นท์ได้ประมาณ 100 หลัง ผู้สนใจสามารถติดต่อได้โดยตรง บริเวณหน่วยทำการบนทุ่งบัวตอง หรือหากต้องการจองล่วงหน้าให้ติดต่อกับทางอำเภอขุนยวมโดยตรง และบริเวณด้านหลังจุดชมวิว ยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อัญมณีประจําราศี

    อัญมณีต่างชนิดกันก็มีคุณสมบัติ ความงาม และคุณค่าที่ต่างกัน เหมือนกับบุคคลทั้ง 12 ราศีในทางโหราศาสตร์ ที่มีความเป็นธรรมชาติที่ไม่เหมือนกัน ผู้มีความรู้ในสมัยโบราณจึงพยายามจับคู่กันระหว่างราศีทั้ง 12 กับอัญมณีทั้งหลาย โดยยึดหลักของความสอดคล้องกันของคุณลักษณะของราศีกับคุณสมบัติของหินมีค่า เช่น สีของอัญมณีกับสีประจำราศี ความหมายของอัญมณีกับบุคลิกลักษณะของบุคคลในราศี หรือแม้แต่ชื่อของอัญมณีที่สอดคล้องกับราศี เป็นต้น จนกลายมาเป็น อัญมณีประจำราศี (Zodiac gemstones or Astral Stones)
        อย่างไรก็ตาม ในการจัดหมวดหมู่ของอัญมณีกับราศีเกิดนั้น ยังคงไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนและถาวร ทำให้ในตำราหลายเล่ม หรือในเว็บไซต์ต่างๆมีตารางแสดงอัญมณีประจำราศีเกิดที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด เพียงแต่จะมีข้อแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย และในราศีหนึ่งๆ จะมีอัญมณีประจำราศีมากกว่าหนึ่งชนิดก็ได้ หรือ อัญมณีชนิดหนึ่ง เป็นอัญมณีของราศีเกิดมากกว่าหนึ่งราศีก็ได้ นอกจากนี้นับแต่สมัยโบราณมาถึงปัจจุบัน อัญมณีประจำราศีเกิดในบางราศีก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้และค่านิยมในแต่ละยุคสมัย ดังนั้นเรื่องของอัญมณีกับราศีเกิดนี้จึงยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนตายตัว
        ในยุคปัจจุบัน ได้มีการจัดเรียงอัญมณีประจำราศีเกิดเอาไว้ ที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเป็นดังนี้
1.ราศีเมษ (21 มีนาคม-20 เมษายน)         อัญมณีสำหรับชาวราศีเมษคือ เพชร คำว่า Diamond ที่แปลว่าเพชรนั้น มาจากภาษากรีก คำว่าAdamas มีความหมายว่า ไม่มีใครสามารถทำลายได้ ในภาษาฝรั่งเศส คำว่า Diamant ก็แปลว่า ไม่มีวันแพ้ เพชรจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความสำเร็จและกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญได้ ซึ่งดูแล้วเหมาะกับนักริเริ่ม นักบุกเบิกที่แข็งแกร่งอย่างชาวเมษ
        อัญมณีที่มีสีขาวใสอย่างเพทายขาวก็จัดเป็นอัญมณีประจำราศีนี้เช่นกัน เนื่องจากสีขาวใสเทียบได้กับทารกเกิดใหม่ที่ยังบริสุทธิ์อยู่นั่นเอง
บลัดสโตน(Bloodstone)หรือหินสีเลือด ก็ถูกจัดให้เป็นอัญมณีของราศีเมษ เนื่องจากสีประจำราศีนี้คือสีแดง

2.ราศีพฤษภ (21 เมษายน-20 พฤษภาคม)        พลอยสีเขียวคืออัญมณีของคนราศีพฤษภ ได้แก่ มรกต ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความยั่งยืนเป็นอมตะ ส่วนในประเทศจีน หยก ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว ค้าขายรุ่งเรื่อง นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าพลอยสีเขียวทั้งหลายจะทำให้เกิดศรัทธาที่มั่นคง และความกล้าหาญ
        โมราสีเขียว(Green Agate)เป็นสัญลักษณ์ของทรัพย์สิน ความมั่งคั่งร่ำรวย
        (ความหมายของอัญมณีสีเขียวเหล่านี้ มีความหมายไปในทำนองเดียวกับดาวศุกร์ ซึ่งเป็นเกษตรของราศีพฤษภ และสีเขียวยังเป็นสีของการเกษตรกรรมและสีของดาวศุกร์อีกด้วย)

3.ราศีมิถุน (21 พฤษภาคม-20 มิถุนายน)        สำหรับชาวราศีมิถุนผู้แคล่วคล่องว่องไว ชอบพูดคุยเจรจา และมีชีวิตชีวา มีความเป็นหนุ่มสาวอยู่ในตัว “เจ้าสามสี”หรือAlexandrite คืออัญมณีหลักของราศีนี้ เป็นพลอยที่สามารถเปลี่ยนสีได้ตามแสงที่ตกกระทบ เชื่อว่าสามารถกระตุ้นพลังงานและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้สวมใส่ นอกจากนี้อัญมณีสีขาวซีด หรือขาวขุ่น ก็เป็นอัญมณีประจำราศีมิถุนเช่นกัน (สีประจำราศีนี้คือ ซีดๆจางๆ) ได้แก่ ไข่มุกและมุกดาหาร (Moonstone) ซึ่งแสดงถึงความบริสุทธิ์ ความสดชื่น และอายุที่ยืนยาว
        โมรา(Agate) ก็ถูกจัดเป็นอัญมณีของราศีนี้ด้วย อาจเป็นเพราะว่าสีของดาวพุธ เกษตรของราศี คือสีที่เป็นลายๆ เป็นแถบๆ หรือหลากสี ซึ่งโมราเป็นพลอยที่มีสีหลายสีมาก

4.ราศีกรกฎ (21 มิถุนายน-20 กรกฎาคม)        ในสมัยก่อนไข่มุก(Pearl) และมุกดาหาร (Moonstone) ถือเป็นอัญมณีของชาวกรกฎ สีขาวเป็นสีประจำราศีนี้ และมีดวงจันทร์เป็นเกษตร สีของดวงจันทร์ในทางโหราศาสตร์คือสีขาวและสีเงิน พลอยทั้งสองชนิดนี้ก็มีสีขาวนวล แถมยังมองดูคล้ายพระจันทร์เต็มดวงอีกด้วย
        ไข่มุก เป็นแร่รัตนชาติที่ช่วยเสริมสง่าราศีให้กับสตรี เป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนและการปกป้อง และก่อให้เกิดความนุ่มนวลอ่อนหวาน
มุกดาหาร โดยตัวมันเองแล้วมีรูปร่างลักษณะที่เหมือนดวงจันทร์มาก เพราะเป็นหินสีขาวใสถึงขุ่น ผิวเรียบเนียน มันวาว แสงสะท้อนจะดูนวลตา เชื่อว่าเป็นหินที่ช่วยให้รับความรู้สึกต่างๆได้ดีขึ้นโดยเฉพาะความรัก ความอ่อนโยน ความสงบ
        ในยุคปัจจุบันทับทิม กลายมาเป็นอัญมณีประจำราศีกรกฏ เชื่อกันว่าทับทิมทำให้เกิดสติปัญญา ความแข็งแรงและความมั่นคงทางอารมณ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก การกล้าแสดงออก
        ในบางครั้ง สปิเนล(Spinel) ก็ถูกนำมาใช้แทนทับทิมได้เช่นกัน โดยเฉพาะสปิเนลสีแดง ซึ่งหากดูเผินๆแล้วจะมีความคล้ายคลึงกับทับทิมมาก จะต่างตรงที่สปิเนลมีความวาว ความแข็ง และน้ำหนักน้อยกว่า แต่ราคาก็ต่ำกว่าเช่นกัน

5.ราศีสิงห์ (21 กรกฎาคม-20 สิงหาคม)        เพอริโดต์ (Peridot) อัญมณีสีเขียวใสคืออัญมณีประจำราศีสิงห์ซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นเกษตร ว่ากันว่า เพอริโดต์นี้ มีพลังแห่งดวงอาทิตย์แฝงอยู่ จึงสามารถขับไล่วิญญาณของภูตผีปีศาจได้ ทำให้ผู้สวมใส่มีอำนาจบารมียิ่งใหญ่ จึงเหมาะกับชาวราศีสิงห์ อย่างไรก็ดี ชาวสิงห์คงต้องดูแลพลอยชนิดนี้ อย่างทะนุถนอม และระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเพอริโดต์ เป็นพลอยที่มีความแข็งไม่มาก (6.5-7) จึงเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่ถ้าหากต้องการอัญมณีที่มีความแข็งมากกว่านี้ ไพฑูรย์ตาแมว (Cat’s eye) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีความแข็งถึง 8.5
        อเวนเจอรีน(Aventurine) พลอยสีเขียวขุ่นเนื้อละเอียด เป็นของชาวราศีสิงห์เช่นกัน เชื่อกันว่าเป็นหินที่สามารถทำให้ผู้สวมใส่เกิดโชคลาภจากการเสี่ยงดวงหรือการแข่งขัน หรือแม้แต่การออกเดทกับคนรัก จึงเหมาะกับคนราศีนี้ที่ชอบการแข่งขันและไม่ต้องการเป็นผู้แพ้ นอกจากนี้ อเวนเจอรีนยังสามารถปลุกเร้าจิตใจให้เกิดความร่าเริง เพิ่มพลังจินตนาการและการสร้างสรรค์
        ทับทิม ก็ถือเป็นอัญมณีของราศีนี้ได้เช่นกัน ในสมัยโบราณทับทิมถือเป็นเครื่องรางเพิ่มความกล้าหาญและความสง่างาม เป็นสัญลักษณ์ของความรักและการกล้าแสดงออก

6.ราศีกันย์ (21 สิงหาคม-22 กันยายน)        อัญมณีของราศีนี้ คือ ไพลิน (Sapphire) แต่เดิมถูกเรียกว่า นิลกาฬ แต่สมัยนี้เรียกว่า ไพลิน ตามชื่อของจังหวัดในประเทศกัมพูชาที่เป็นแหล่งของพลอยชนิดนี้ ไพลินเป็นอัญมณีที่สื่อถึงความเมตตากรุณา และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จึงเหมาะกับชาวราศีกันย์ที่เป็นนักบริการ
        เพทาย (Zircon) และ โมรา (Agate) ก็เป็นพลอยประจำราศีนี้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากพลอยทั้งสองอย่างนี้มีหลายสีมาก ซึ่งเหมือนกับสีของดาวเกษตร คือดาวพุธที่มีสีของดาวคือหลากสีสัน หรือสีที่เป็นลายต่างๆ
        เรด แจสเปอร์ (Red Jasper) ถือว่าเป็นอัญมณีที่สื่อถึงลักษณะของชาวราศีกันย์ได้ชัดเจนมาก เพราะเป็นอัญมณีที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย และการดิ้นรนอยู่รอด ทำให้ผู้สวมใส่มีหลักการในการดำรงงชีวิตอย่างเรียบง่าย

7.ราศีตุลย์ (23 กันยายน-20 ตุลาคม)        ชาวราศีตุลย์เป็นคนรักสงบ ประนีประนอม และปรารถนาความสุข รักสวยรักงาม จึงเหมาะกับ โอปอล (Opal) อัญมณีหลากสีสันที่แต่ละเม็ดจะมีความงามไม่ซ้ำกัน โอปอลนั้น หมายถึง ความสุขและความสมหวัง สามารถนำความรักและความสุขมาให้กับผู้สวมใส่ โดยเฉพาะโอปอลสีเข้ม หรือ แบล็กโอปอล
        ไพลิน จัดเป็นอัญมณีของราศีตุลย์เช่นกัน เป็นหินที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ของชีวิตรัก เป็นอัญมณีแห่งสัจธรรมและความดีงาม
        เลพิโดไลท์(Lepidolite) หินสีชมพูออกม่วง เป็นหินสำหรับผู้ที่ปัญหาด้านความรัก อกหักรักคุด ช่วยให้เปิดกว้างรับสิ่งดีๆที่อยู่รอบตัวเข้าสู่จิตใจ

8.ราศีพิจิก (21 ตุลาคม-20 พฤศจิกายน)        ชาวพิจิก เป็นผู้มีความห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นสู่เป้าหมายของตน แต่มุทะลุดุดัน จึงคู่กับ บุษราคัม และ โทแพซ (Topaz) เพราะเป็นอัญมณีที่สื่อถึง ความรอบคอบ การปกป้องจากความทุกข์เข็ญ ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและความกล้าหาญ และช่วยรักษาความสมดุลแห่งอารมณ์ทางเพศได้ด้วย
        ซิทริน (Citrine) หรือคริสตัลเหลือง มีสีเหลืองทอง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ให้กำลังใจและความเชื่อมั่น ช่วยในการตัดสินใจเมื่อต้องเสี่ยงหรือต้องเลือก ยูนาไคท์ (Unakite) หินสีเขียวมีลายจุดสีส้มกระจายอยู่ทั่ว เชื่อว่าช่วยให้ผู้สวมใส่ยึดมั่นในเป้าหมายและความปรารถนาของตน และมั่นใจในการก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น

9.ราศีธนู (21 พฤศจิกายน-20 ธันวาคม)        เทอร์ควอยส์ (Turqouise) หินสีเขียวน้ำทะเล และ เพทายสีฟ้า ถูกจัดเป็นอัญมณีของราศีนี้ พลอยทั้งสองชนิดนี้ หมายถึง ความร่ำรวยและความมั่งคั่ง ซึ่งมีความหมายเดียวกับดาวพฤหัสที่เป็นดาวเกษตรของราศีธนู เทอร์ควอยส์ยังมีคุณสมบัติด้านความรักความเมตตา และช่วยเสริมสร้างสติปัญญา
       
ลาพีซ ลาซูรี(Lapis Lazuri) แซฟไฟร์สีน้ำเงินเข้มที่มีละอองสีทองปนอยู่ในเนื้อหิน ถือเป็นหินแห่งความรู้ เสริมสร้างพลังทางปัญญา ช่วยเปิดตาและเปิดใจให้พบกับสัจธรรมความเป็นจริง
10.ราศีมกร (21 ธันวาคม-20 มกราคม)        ชาวราศีมกรเป็นคนจริงจัง มีระเบียบแบบแผน แต่มักจะวิตกกังวล จึงส่งผลเสียต่อสุขภาพ และมักจะมีอาการเจ็บป่วยแบบผู้สูงอายุ เช่น ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดหลัง เป็นต้น อัญมณีที่เชื่อกันว่าจะช่วยให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพที่ดีจึงเป็นอัญมณีประจำราศีนี้ นั่นคือ โกเมน(Garnet)
        มาลาไคท์(Malachite) หินสีเขียวสดทึบแสง มีลายริ้วๆ เชื่อว่าช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย ปกป้องอันตรายจากการเดินทาง และยังสามารถป้องกันการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับฟัน กระดูก ไขข้อ อาการอักเสบและติดเชื้อได้ด้วย

11.ราศีกุมภ์ (21 มกราคม-18 กุมภาพันธ์)        คนราศีนี้รักอิสระ รักพวกพ้อง ชอบคิดและทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ก็ยังมีเพื่อนเยอะ อาเมทีสต์(Amethyst) พลอยสีม่วง คืออัญมณีของชาวกุมภ์ บ่งบอกถึงหัวใจที่เป็นอิสระ ความจริงใจและความซื่อสัตย์ สีม่วงของอาเมทิสต์นี้ยังใกล้เคียงกับสีประจำราศีกุมภ์อีกด้วย (สีไลแลค หรือม่วงออกแดง)
        ฟลูออไรต์(Fluorite) หินหิ่งห้อย บางก้อนเรืองแสงได้ มีหลายสี เชื่อว่า เป็นหินที่มีพลังพิเศษ สามารถทำให้เห็นภาพนิมิต หรือ ภาพในอนาคตได้ เหมือนช่วยให้เกิดญาณรับรู้อนาคต และยังมีคุณสมบัติลดอาการปวดกระดูก ช่วงให้ฟันแข็งแรง

12.ราศีมีน (19 กุมภาพันธ์-20 มีนาคม)        อความารีน (Aquamarine) พลอยที่มีตั้งแต่สีเขียวน้ำทะลจนถึงสีฟ้าเข้ม เป็นอัญมณีที่นำความสมบูรณ์และยิ่งใหญ่ดั่งท้องทะเลมาให้ ช่วยให้จิตใจสงบ อ่อนโยน ถือเป็นอัญมณีนำโชคของชาวเรือและชาวทะเล ช่วยบรรเทาอาการเมาคลื่นและอุบัติภัยได้ (จะเห็นว่าทั้งชื่อและคุณสมบัติของอความารีนเกี่ยวข้องกับดาวเนปจูน ดาวเกษตรของราศีมีน)
        อาซูไรต์(Azurite) หินสีน้ำเงินเข้ม เป็นแร่โคบอลต์ มักใช้ในการนั่งสมาธิ ช่วยปลุกพลังแห่งจิตวิญญาณ การรับรู้และสัมผัสพิเศษ
        ราศีมีนเป็นราศีที่มีอัญมณีประจำราศีอยู่หลายชนิดแต่ละแหล่งข้อมูลก็กำหนดแตกต่างกันออกไป นอกจากอความารีนและอาซูไรต์แล้วยังมี บลัดสโตน(Bloodstone) อาเมทิสต์ (Amethyst) ที่มีสีม่วง สีของราศีมีน หยก (Jade) มุกดาหาร (Moonstone)

วันคริสต์มาส

      วันคริสต์มาส ( Christmas Day; หรือเรียกว่า Christ's mass, Nativity, Yuletide, Noel, Winter Pascha, Xmas) เป็นเทศกาลประจำปี ซึ่งในศาสนาคริสต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู คริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี แต่ก็ไม่เป็นที่เชื่อกันว่าเป็นวันประสูติของพระองค์จริง สำหรับสาเหตุที่เลือกวันดังกล่าวแต่เดิมมีอยู่หลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า วันนี้เป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังจากนางมารีย์รับการประสูติของพระเยซู ตรงกับเทศกาลบูชาสุริยเทพของโรมันโบราณหรือไม่ก็ตรงกับเหมายันในซีกโลกเหนือ ในทางคริสต์ศาสนา คริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของเทศาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 12 วัน
ถึงแม้ว่าแต่เดิมคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองโดยคริสเตียน แต่ผู้ที่มิได้นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมากก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างกว้างขวาง[วัฒนธรรมสมัยใหม่ของคริสต์มาส รวมไปถึง การให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาส การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์คริสต์ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ และการตกแต่งบรรยากาศ เช่น ต้นคริสต์มาส มิสเซิลโท ฮอลลี่ เป็นต้น และยังมีตำนานอันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเกี่ยวกับซานตาคลอส (หรือ ฟาเธอร์คริสต์มาส) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็ก ๆ
เนื่องจากการให้ของขวัญและผลกระทบจากเทศกาลคริสต์มาสได้ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งในกลุ่มคริสเตียนและผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียน วันดังกล่าวจะกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญและช่วงเวลาของสินค้าลดราคาสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยซึ่งเติบโตขึ้นอย่างคงที่ตลอดเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคของโลก

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หอไอเฟล

หอไอเฟล เป็นสถาปัตยกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความแปลกใหม่และทันสมัย  มีความงดงามและเป็นศิลปกรรมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติประชาชนที่มีอายุครบรอบ 100 ปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 71 ล้านฟรังค์ ผู้ที่ออกแบบหอไอเฟลคือ นาย กุสตาพ เอฟเฟล
หอไอเฟลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากโครงเหล็กขนานใหญ่มีความสูงถึง 300 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปี  สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2432 จัดเป็นหอที่มีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการก่อสร้างในอดีตเป็นอย่างมาก ชั้นบนของหอไอเฟลจะมีอาคาร 3 ชั้น  ไว้คอยบริการอาหารและของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพที่งดงามจากกรุงปารีสได้จากชั้นบนสุดของอาคารที่เปิดโล่งเอาไว้
ปัจจุบัน หอไอเฟล เป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ทุกคนนึกถึงประเทศฝรั่งเศสเพราะสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่นั้น  เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความแปลกใหม่และไม่มีใครเหมือน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย  แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่สามารถจะเข้ามาทดแทน หอไอเฟล ได้เลย
 

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทะเลหมอก ดอยกดาดผี

ดอยกาดผี แหล่งชมทะเลหมอกใหม่ล่าสุด สวยที่สุดและมหัศจรรย์ที่สุดของจังหวัดเชียงราย ซ่อนความงามอยู่ในเทือกเขาดอยวาวี อำเภอแม่สรวย ใช้เวลาเดินทางจาก
เชียงรายใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ มุมมองที่สวยที่สุดอยู่ทางทิศตะวันออก เป็นมุมพานอรามา เห็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงาม และยังมีมุมอื่นๆ ที่สามารถชมได้รอบตัว
ใกล้กับดอยนี้ มีที่เที่ยวคือดอยวาวีแหล่งปลูกชา และดอยช้างซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อของเมืองไทย เมื่อมาที่นี่ยังสามารถชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) บานได้อีกด้วย

หน้าหนาวนี้ควรไปเที่ยวสักครั้งนะค่ะ


อ้างอิง : ททท.สำนักงานเชียงราย โทร 053-717-433, 053-744-674-5